จับได้แล้วไอ้หื่นลวงเซลสาวไปหวังข่มขืน
วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2566
จับได้แล้วไอ้หื่นลวงเซลสาวไปหวังข่มขืน
ตำรวจเริ่มปฏิบัติการปูพรมไล่ล่า ไอ้หื่นลวงเซลล์ขายรถหวังข่มขืน วันที่ 30 กันยายน 2566 หลังจากก่อเหตุผู้ก่อเหตุหลบหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวตลอดทั้งคืนแต่ยังไม่พบ
ความคืบหน้า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำนักทอง จังหวัดระยอง ปิดป่าไล่ล่า นายโอ๋ ที่ออกอุบายหลอกให้เซลล์สาวขายรถยนต์ นำสัญญาซื้อขาย รถไปให้เซ็นนอกสถานที่ บริเวณสวนยางพารา ซอยสวนป่า ม.3 ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง ก่อนจะใช้มีดจี้ลากตัวเซลล์สาวเข้าไปข่มขืนในป่าสวนยางข้างทาง และมีชาวบ้านผ่านมาพบเห็น จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าช่วยเหลือ ส่วนนายโอ๋ ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป โดยเหตุการณ์นี้เกิดตั้งแต่ช่วงบ่ายของของวันที่ 30 กันยายน 2566
คนงานกรีดยางที่ลวงเซลขายรถไปข่มขืนในป่า และหลบหนีขึ้นเขาถึง 2 คืน ถูกตำรวจปิดเส้นทางขึ้น-ลง ตัดทั้งเสบียงและน้ำ จนที่สุดทนหิวไม่ไหว แอบลงมางัดบ้านและถูกจับกุมไว้ได้
ตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ ที่ตำรวจ สภ.สำนักทอง และอาสาสมัครหลายนาย ระดมค้นหานายชัยยศ หรือ โอ๋ อายุ 48 ปี คนร้ายที่ลวงเซลสาวขายรถไปข่มขืนในป่า หมู่ 3 ตำบลสำนักทอง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา และหลบหนีขึ้นเขาไป แม้ตลอด 2 วัน 2 คืน เจ้าหน้าที่จะพยายามตะโกนหว่านล้อมให้เข้ามอบตัว แต่นายชัยยศยังคงซุ่มเงียบอยู่บนเขา และมีบางช่วงที่อาศัยความชำนาญในพื้นที่ แอบลงมางัดบ้านขโมยน้ำและอาหารจากชาวบ้าน
ตำรวจต้องปรับแผนกันแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง หลังพบสัญญาณมือถือที่นายชัยยศขโมยไปอยู่บริเวณเชิงเขา หมู่ 5 ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร จึงกระจายกำลังปิดเส้นทางขึ้น-ลงทุกจุด เพื่อตัดเสบียงและน้ำ กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชัยยศทนหิวไม่ไหว อีกทั้งบนเขายังหนาวเย็น ทำให้ต้องเสี่ยงลงมางัดบ้านอีกครั้ง คราวนี้ไม่รอด เพราะตำรวจรอจับอยู่แล้ว
จากคำให้การเบื้องต้นอ้างว่า ไม่ได้วางแผนและไม่ได้มีเจตนา ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การของผู้เสียหายที่ยืนยันว่า ถูกหลอกให้นำเอกสารการซื้อ-ขายรถมือสองมาให้ที่บ้านพักในสวนยางพารา และจังหวะที่ผู้เสียหายเปิดประตูรถ ใช้มีดจี้บังคับให้ขับไปทางเปลี่ยว ฉุดลงป่าข้างทางข่มขืนจนมีชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์ผ่านและเข้าไปช่วยเหลือ
หลังการสอบสวนตำรวจตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราฯ กระทำอนาจารฯ และข่มขืนใจผู้อื่นฯ ก่อนคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ใช้เวลาแค่ 30 นาที และรีบพาตัวกลับไปที่ สภ.สำนักทอง ทันที เนื่องจากมีบรรดาญาติผู้เสียหาย ที่อยู่ในอารมณ์โกรธแค้นอยากเห็นหน้า
